การอ่านออกเสียงตัวอักษร
(M.2)
อักษรอังกฤษ
มีทั้งหมด 26 ตัว ซึ่งน้อยกว่าภาษาไทย
ทำให้จดจำได้ง่ายทั้งในอักษรทั้ง 26 ตัวนี้
เป็นสระ 5 ตัว คือ A (เอ)
E (อี) I (ไอ) O (โอ)
U (ยู) และอีกตัวหนึ่งคือ Y
(วาย) ซึ่งเป็นได้ทั้งพยัญชนะและสระ
ที่เหลืออีก 20 ตัว จึงเป็นพยัญชนะ
อักษรอังกฤษมี 4 แบบ
1. แบบตัวพิมพ์ใหญ่ A B C
…….. 2. แบบตัวพิมพ์เล็ก a b c ……..
3. แบบตัวเขียนใหญ่ …….. 4. แบบตัวเขียนเล็ก ………
อักษรตัวพิมพ์และคำอ่าน
พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก อ่าน ตรงกับภาษาไทย
A a เอ เ , แ,ะ, า, อะ
B b บี บ
C c ซี ซ, ช, ค, ก
D d ดี ด
E e อี เ
F f เอฟ ฟ, ฝ
G g จี จ, ย, ก
H h เอช ฮ
I i ไอ ไ,ใ,อิ,อี
J j เจ
จ, ย, ช
K k เค
ค, ก
L l แอล
ล
M m เอ็ม
ม
N n เอ็น
น
O o โอ
โอ , อ
P p พี
พ, ป, ผ
Q q คิว (ผสมกับ U เท่ากับ คว)
R r อาร์
ร
S s เอส
ส, ซ
T t ที
ต, ท, ถ
U u ยู
ย, สระ ุ สระ ู
V v วี
ว
W w ดับบลิว
ว
X x เอ็กซ์
กซ์ , ช
Y y วาย
ย, ไ
Z z แซ่ด
ซ
การทบทวนเรื่องอักษรที่เป็นสระอีกครั้ง
คือ
A ตรงกับสระ เ, แ, ะ, า และ อ
E ” อี , เ
I ”
ไ
O ” โ, -อ
U ” ุ , ู , ั
Y ” วาย, ย
สระทั้ง 6 ตัวนี้ ในบางคำก็ต้องใช้ผสมถึง 2 ตัวหรือ 3 ตัวในคำๆ หนึ่ง เป็นการทำให้
เปลี่ยนเสียงสระและความหมายไปด้วย
จึงต้องอาศัยหลักของการสังเกตและท่องจำไว้อีกขั้น
หนึ่ง ทำนองเดียวกับภาษาไทยเราและสระหนึ่งนำมาผสมกัน 2 ตัวในคำๆ หนึ่ง ถ้าเป็นสระอย่างเดียวกันและผสมซ้อนกันหรือควบกัน
ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “ดับเบิ้ล” (double) ซึ่งแปลว่า “คู่” หรือ “
2 เท่า” เช่น Aผสมกัน 2 ตัวเป็น AA ก็เรียกว่า ดับเบิ้ล A หรือ EE ก็เรียกว่า ดับเบิ้ล E เราจะเริ่มแต่การเอา A ซึ่งเป็นตัวสระมาผสมกับพยัญชนะจำพวก B, C, D และ ฯลฯ เป็นอันดับแรก และสระอื่นๆ ตามลำดับกันไป
ซึ่งพอจะแยกเสียงเมื่อผสมออกเสียงแล้วได้ดังนี้
A
: ออกเสียงสระเป็น เอ
May อ่านว่า
เมย์ (อาจจะ)
Say ” เซย์ (พูด)
bacon ” เบคอน (เนื้อหมู)
bay ” เบย์ (อ่าว)
A : ออกเสียงสระเป็น
แอ
arrow อ่านว่า แอโร่ว์ (ลูกธนู, ลูกศร)
area ” แอเรีย (พื้นที่)
ass ” แอส (ลา)
man ” แมน (คน (ผู้ชาย))
A : ออกเสียงเป็น
อา, อะ
basket อ่านว่า บาสเก็ต (ตะกร้า)
dance ” ด๊านซ์ (เต้นรำ)
art ” อาร์ต (ศิลป)
amount ” อะเม้าท์ (จำนวน)
A : ออกเสียงสระเป็น
ออ
also อ่านว่า ออลโซ (ด้วยกัน)
call ” คอลล์ (เรียก)
ball ” บอลล์ (ลูกกลมๆ , ลูกหนัง)
war ” วอร์ (สงคราม)
E
: ออกเสียงสระเป็น เอ
set อ่านว่า
เซ็ท (ชุด, วาง, ตั้ง)
bed ” เบ็ด (เตียง)
step ” สเต็พ (ก้าว , บันได)
press ” เพรส (พิมพ์ กด)
general ” เยนเนอรัล (ทั่วๆ
ไป)
E
: ออกเสียงเป็น อี
key อ่านว่า
คีย์ (กุญแจ)
ether ” อีเธอร์ (อากาศธาตุ)
era ” อีรา (ศักราช , ยศ)
E : ออกเสียงสระเป็น
อิว, อูว เมื่อมี W ตามหลัง
crew อ่านว่า ครูว (ขัน, ร้องอย่างกา)
new ” นิว (ใหม่)
blew ” บลูว (ผิวปาก)
I : ออกเสียงสระเป็น
ไอ
violin อ่านว่า ไวโอลิน (เครื่องดนตรี)
bright ” ไบร้ท์ (แสงสว่าง)
high ” ไฮ (สูง)
I : ออกเสียงสระเป็น
อิ
king อ่านว่า คิง (พระราชา)
sing ” ซิง (ร้องเพลง)
ship ” ชิพ (เรือ)
hip ” ฮิพ (ตะโพก)
O : ออกเสียงสระเป็น
โอ
know อ่านว่า โนว. (รู้, ทราบ)
phone ” โฟน (เสียง, โทรศัพท์)
ocean ” โอเชียน (มหาสมุทร)
low ” โลว์ (ต่ำ)
O : ออกเสียงสระเป็น
ออ
long อ่านว่า ลอง (ยาว)
song ” ซอง (เพลง)
top ” ท๊อพ (ยอด)
god ” ก๊อด (พระเจ้า)
U : ออกเสียงสระเป็น
อุ หรือ อู
put อ่านว่า พุท (วาง, ตั้ง)
full ” ฟูล (เต็ม)
push ” พุช (ผลัก , ดัน)
U
: ออกเสียงสระเป็นไม้หันอากาศ
hut อ่านว่า ฮัต (กระท่อม)
but ” บัท (แต่ว่า, แต่)
much ” มัช (มาก)
U : ออกเสียง เออ
เมื่อมี R ตามหลัง
hurt อ่านว่า เฮิท (ทำอันตราย)
nurse ” เนอร์ส (นางพยาบาล)
Y
: ออกเสียงสระ อาย หรือ ไอ
by อ่านว่า บาย, ไบ (โดย)
why ” วาย (ทำไม)
cry ” คราย (ร้องไห้, ร้อง)
sky ” สคาย, สไคย์ (ท้องฟ้า)
Y
: ออกเสียงสระเป็น อิ, อี
plenty อ่านว่า เพลนที่ (มากหลาย)
happy ” แฮพพิ (สุขสบาย)
lonely ” โลนลิ (โดดเดี่ยว)
การผสมด้วยสระ 2 ตัว
ai : ออกเสียงเป็น ไอ, เอ, แอ
Thai อ่านว่า ไท (ไทย)
aid ” เอด (ช่วยเหลือ)
air ” แอร์ (อากาศ)
au : ออกเสียงเป็น ออ
fault อ่านว่า ฟอลท์ (ผิด, บกพร่อง)
bauble ” บอเบิล (ของเล่นของเด็ก)
ai : ออกเสียงเป็น เอ
fail อ่านว่า เฟล (ขาดไป)
gain ” เกน (กำไร)
oo : ออกเสียงเป็น อู
zoo อ่านว่า ซู (สวนสัตว์)
moon ” มูน (พระจันทร์)
การใช้สระโอหรือตัว O สองตัวนี้
มีบางคำซึ่งเฉพาะเป็นเสียงไม้หันอากาศ เช่น
blood อ่านว่า บลั้ด (เลือด)
flood ” ฟลัด (น้ำท่วม)
ou : ออกเสียงเป็น อาว, อู
sound อ่านว่า ซาวด์ (สียง)
round ” ราวด์ (กลม, รอบ)
soup ” ซุป (แกงจืด, ซุป)
ui : ออกเสียงเป็น อุ, อี
fruit อ่านว่า ฟลุท (ผลไม้)
ข้อสังเกต : การผสมด้วยสระ 2 ตัว
มีบางคำที่อ่านเพี้ยนไปจากที่กล่าว ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่
กับพยัญชนะตัวที่สะกดควบอยู่ท้ายด้วย
ที่ทำให้สำเนียงอ่านเพี้ยนไป แม้คำที่ผสมด้วยสระตัวเดียวก็เช่นเดียวกัน
ถ้าผู้อ่านสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่า ด้วยพยัญชนะที่สะกดอยู่ท้าย
มักจะเป็นตัวบังคับให้ออกเสียงไปเป็นกลุ่มของมันได้ ซึ่งได้แก่ตัว r,
L, w เช่น
fir อ่านออกเสียงเป็น เฟอร์
ball ” บอลล์
new ” นิว
now ” นาว
อย่างไรก็ดี
การอ่านออกเสียงต่างๆ ในภาษาอังกฤษนี้ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
ค่อนข้างจะยุ่งยากสับสนอยู่สักหน่อย ฉะนั้น
คำอ่านบางคำจึงอาจอ่านออกเสียงผิดไปจากหลักเกณฑ์อยู่บ้างก็ได้
เรียกว่าไม่ตายตัวเสมอไป ฉะนั้น
จึงขอให้ใช้ความสังเกตและความจำให้แม่นเป็นหลักใหญ่ในการพบเห็นด้วย